2023-12-05 06:16:41pm
 | 
  ยินดีต้อนรับเข้าสู่เว็บไซต์ sbobet333 เรารับพนันกีฬาเอเชี่ยนแฮนดีแคพ และ คาสิโนออนไลน์แบบ ไลฟ์ดีลเลอร์ สนใจสมัครสมาชิก คลิ๊กปุ่มบนซ้ายมือได้เลย  

ดูบอลย้อนหลัง บอล บอลออนไลน์ ทีเด็ดเซียนและ ข่าวแมนยู

22/01/2021

ตัวเลขฝืดๆ ดูบอลย้อนหลัง

โมฮาเหม็ด ชาลาห์, ชาดิโอ มาเน่และ โรแบร์โต้ ฟร์มีโน่ คือ 3 แนวรุกที่สร้างความสำเร็จให้กับลิเวอร์พูลตลอดช่วงที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ฤดูกาล 2018-19มและแชมปีพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ซีชั่น 2019-20 ทำให้มันไม่แปลกเลยที่พวกเขาจะได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในแนวรุกที่นกลัวที่สุดชุดหนึ่งในยุคปัจจุบันอย่างไรก็ตาม ปฏิเสธไม่ได้ว่าช่วงที่ผ่านมาทั้งหมดทำผลงานได้ต่ำกว่ามาตรฐาน พวกเขาทำประตูในลีไม่ได้เลยมา ดูบอลย้อนหลัง 3 นัดติดต่อกันเข้าไปแล้วซึ่งผิดวิสัยของพวกเขาอย่างมาก จนทำให้แฟนบอลลิเวอร์พูลบางส่วนมองว่าแนวรุกในตอนนี้นเป็นห่วงกว่าเกมรับชะด้วยซ้ำไปด้วยเหตุนี้ วันนี้เราเลยจะมาเจาะผลงานการเล่นเกมรุกในลีก 3 นัดที่ผ่านมาของ มาเน่,มชาลาห์ และ ฟีร์มีโน่ กัน เพื่อดูว่าแต่ละคนเล่นกันได้ในระดับไหน โดยเราจะอ้างอิงข้อมูลจาก FBrefเว็บไชต์บันทึกสถิติการเล่นต่างๆ เป็นหลัก

 

- การผ่าน บอล

3 นัดที่ผ่านมา ซาลาห์มีจังหวะผ่านบอลที่กลายเป็นจังหวะสำคัญแค่ 2 ครั้งเท่านั้น โดยเกิดขึ้นในเกมกับเชาร์แฮมปตัน และ แมนฯ ยูไนเต็ดนัดละ 1 หน ตรงข้ามกับมาเน่ที่ทำอย่างนั้นได้ 5ครั้ง ขณะที่ฟีร์มีโน่มีผลงานในด้านนี้ 4 หน จากการลงเล่นในลีก 3 นัดหลังสุดนอกจากนี้ จากการผ่านบอลเข้าเป้าทั้งหมด 1 ครั้ง ใน 3 นัดที่ผ่านมา มันก็มีเพียง 5 ครั้งที่การผ่านบอลของชาลาห์เป็นการผ่านบอลที่ดันเกมบุกขึ้นไปข้างหนได้อย่างน้อย 5 หลา ทำให้เปอร์เซ็นต์การผ่านบอลที่กลายเป็นการช่วยดันเกมบุกขึ้นหน้าอย่างน้อย 5 หลา ของเขาอยู่ที่ 7.04 เปอร์เซ็นต์ หากเทียบกับจังหวะผ่าน บอล เข้าเป้าทั้งหมด ซึ่งน้อยที่สุดในกลุ่ม 3 แนวรุกเพราะมาเน่ทำได้ 17.33 เปอร์เซ็นต์ (13 ครั้งจากการผ่านบอลเข้าเป้า 75 หน) ส่วนฟิร์มีโน่ทำได้ 9.63 เปอร์เซ็นต์ (8 ครั้งจากการผ่านบอลเข้าเป้า 83 หน)

 

- การสร้างสรรคโอกาส บอล

5 หน คือจำนวนครั้งที่ชาลาห์สร้างโอกาสการยิงให้กับทีมได้ในการลงเล่นเกมลีก 3 นัดที่ผ่านมาโดยเกมกับแมนฯ ยูไนเต็ด เขาทำอย่างนั้นได้ 3 ครั้ง โดยอีก 2 ครั้งเกิดขึ้นในนัดพ่ายเซาธ์แฮมป์ตัน 0-1 ขณะที่เกมกับนิวคาสเซี่ล ยูไนเต็ด เขาทำอย่างนั้นไม่ได้เลย โดยที่จริงเกมกับ "สาลิกาดง" ก็เป็นนัดที่ 2 ติดต่อกันที่เขาสร้งโอกาสยิงในลีกไม่ได้เลยด้วย เพราะเกมเจ้เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน ก่อนหน้านั้นเขาก็สร้างโอกาสยิงไม่ได้เลยเช่นกันขณะที่มาเน่มีจังหวะการเล่นที่นำไปสู่การยิงทั้งหมด 8 ครั้ง โดยเกมที่เขาทำอย่างนั้นได้มากที่สุดคือนัดกับเชาร์แฮมปีตัน ที่ทำไป 4 หนตามด้วยเกมแดงเดือดที่ทำได้ 3 ครั้ง ส่วนนัดกับนิวคาสเชิ่ล เขาทำได้ 1 หน ขณะที่ฟร์มีโน่ยังสวมบทกองหน้าจอมปั้นเพื่อนได้ดี เพราะเขามีจังหวะการเล่นที่กลายเป็นการสร้างโอกาสทำประตูได้ถึง 10 หนในช่วง 3 เกมที่ผ่านมา ประกอบด้วย 2 หนในเกมกับนิวคาสเซิ่ล และ เชาร์แฮมปีตัน ต่อด้วย 6 ครั้ง ในเกมกับแมนฯ ยูไนเต็ด

 

- ความแม่นยำในการยิง ข่าวแมนยู

ในเกมลีก 3 นัดหลังสุด ชาลาห์มีโอกาสลุ้นทำประตูทั้งหมด 7 หน แต่มีเพียงครั้งเดียวเท่านั้นที่ลูกยิงของเขาเป็นการยิงตรงกรอบ โดยเกิดขึ้นในเกมกับนิวคาสเซิล อย่างไรก็ตาม มาเน่ก็ไม่ได้ดีไปกว่ากันเท่าไหร่ เพราะเขาก็ยิงตรงกรอบแค่หนเดียวจากโอกาสลุ้นทำประตูทั้งหมด 6 ครั้ง โดยการยิงตรงกรอบครั้งเดียวที่ว่ของมาเน่เกิดขึ้นในนัดกับเซาธ์แฮมป์ตันขณะที่ฟีร์มีโน่มีจังหวะยิงตรงกรอบ 3 หน จากการลุ้นทำประตูทั้งหมด 11 ครั้ง ใน 3 เกมที่ผ่านมา ทำให้ถ้าเทียบเป็นเปอร์เซ็นต์การยิงตรงกรอบแล้วนั้นตัวเลขของหัวหอกชาวบราซิเลียน ก็ถือว่าดีที่สุดที่ 27.27 เปอร์เซ็นต์ ตามมาด้วยมาเน่ที่ทำได้ 16.66 เปอร์เซ็นต์ ปิดท้ายด้วยชาลาห์ที่ทำไป 14.28 เปอร์เซ็นต์ ดูบอลย้อนหลัง

 

ทีมยอดเยี่ยมพรีเมียร์ลีก แมตช์เดย์ 18 ดูบอลย้อนหลัง

ทีมยอดเยี่ยมพรีเมียร์ลีกประจำสัปดาห์นี้มีผู้หลายจากหลายทีมติดเข้ามา ไม่ว่าจะเป็นแข้งจากแมนฯ ซิตี้, ลิเวอร์พูล, แมนฯ ยูไนเต็ด, อาร์เซนอลและเชลซี ส่วนจะมีชื่อของใครบ้างไปดูกันได้เลย

ผู้รักษาประตู: อลีสซง เบ็คเกอร์ (ลิเวอร์พูล)

ลิเวอร์พูลโชคดีเหลือเกินที่มี อลีสซง เบ็คเกอร์ยืนเฝ้าเสาป้องกันประตู ชอตสำคัญเน้น ๆ 2 ครั้งจากลูกยิงของ บรูโน่ แฟร์นันด์ส และ ปอล ปอกบา คือจังหวะที่นายด่านแชมบ้าช่วยไม่ให้ "หงส์แดง" เสียประตูในเกมนี้ บอลออนไลน์

 

กองหลัง : ลุค ชอว์ (แมนฯ ยูในเต็ด)

กลายเป็นพระเอก ตามประกบ โมฮาเหม็ดซาลาห์ จนกระดิกตัวแทบไม่ออก โดยเคลียร์จังหวะอันตรายได้ถึง 4 ครั้ง และผ่าน บอล มากที่สุดในทีม

 

กองหลัง : จอห์น สโตนส์ (แมนฯ ซิตี้)

ทำสองประตูในเกมเดียวได้เป็นครั้งแรกบนลีกสูงสุด อังกฤษ และยังเป็นประตูแรกในรอบ 6 ฤดูกาลที่ จอห์น สโตนส์ ทำประตูได้ นอกเหนือจากนี้ เรื่องเกมรับเขายังช่วยให้แมนฯ ซิตี้ เก็บคลีนชีต 7 จาก 9 นัดที่มีสโตนส์ยืนปักหลักแนวรับในลีกซีชั่นนี้

 

กองหลัง : เซมี อาจายี่ (เวสต์บรอมวิช)

หลังจากโขกทำประตูตามตีเสมอลิเวอร์พูลได้มาเกมนี้ เซมี่ อาจายี่ กองหลังทีมชาติไนจีเรียวัย 27 ปี ก็ขึ้นมาโหม่งประตูสำคัญให้เวสต์บรอมวิช ก่อนที่ต้นสังกัดจะบุกคว้าชัยถึงโมลินิวซ์ กราวนด์ บอลออนไลน์

 

 

 

กองหลัง : เซดริก โซอาเรส (อาร์เซน่อล)

ลงสนามเป็นตัวจริงครั้งแรกในลีกซีชั่นนี้ และ เจ้าตัวก็ทำผลงานได้โดดเด่นแถมยังมีชื่อแอสซิสต์ให้ปีแอร์-เอเมอริค โอบาเมยือง ยิงปิดท้ายประตูที่สาม บอลออนไลน์

 

 

 

กองกลาง : เมสัน เมานท์ (เชลซี)

กลับมาทำประตูได้อีกครั้งเป็นลูกแรกในรอบ 14 นัดในพรีเมียร์ลีก เป็นผู้เล่นเชลซีที่โชว์ฟอร์มดีในเกมบุกชนะฟูแล่ม

 

กองกลาง : ยูริ ตีเลอมันส์ (เลสเตอร์)

อยู่ในช่วงฟอร์มกำลังเข้าฝักหลังทำประตูได้ในเกมบุกชนะนิวคาสเซิล ซึ่งมาเกมนี้ ยูริ ตีเลอมันส์ ก็มีส่วนร่วมกับประตูอีกครั้งด้วยการทำแอสซิสตให้เพื่อน 2 ลูก

 

กองกลาง : เดแคลน ไรซ์ (เวสต์แฮม) ดูบอลออนไลน์ 

คุมแดนกลางให้เวสต์แฮมได้อย่างอยู่หมัดผ่าน บอล จังหวะสำคัญได้ถึง 4 ครั้ง ฟอร์มยอดเยี่ยมขนาดนี้จึงไม่แปลกที่ เดแคลน ไรซ์ จะมีข่าวเชื่อมโยงกับแมนฯ ยูไนเต็ด และ เชลซีอย่างไรก็ตวม หลังจบเกมล่าสุด เดวิด มอยส์กุนชื่อ "ขุนค้อน" ออกมาปฏิเสธแล้วว่าไม่เป็นความจริง

 

กองกลาง : ต็องกีย์ เอ็นดอมเบเล่ (สเปอร์ส)

กลับมายึดตัวจริงให้ทีมของ โชเช่ มูรินโญ่ ได้ต่อเนื่อง นอกจากขยันไล่บี้คู่แข่งตรงแดนกลางแล้วเกมนี้มิดฟิลด์ทีมชาติฝรั่งเศสก็มีชื่อทำสกอร์อีกด้วย

 

กองหน้า : แฮร์รี่ เคน (สเปอร์ส)

เมื่อไหร่ที่ บอล เข้าข้อ ลูกบอลที่ออกจากเท้าของแฮรีรี่ คน มักหวังผลได้เสมอ และประตูในเกมนี้คือประตูที่เจ้าตัวทำได้ในลีก 3 เกมติดต่อกันเป็นครั้งแรกของซีซั่นนี้

 

กองหน้า: ปีแอร์-เอเมอริค โอบาเมย็อง (อาร์เซน่อล)

สองประตูในเกมนี้เหมือนเป็นการเรียกความมั่นใจของกัปตันทีม "เดอะ กันเนอร์ส" หลังจากก่อนหน้านี้เพิ่งทำได้แค่ 3 ลูกเท่านั้นในลีก

 

ทีมยอดแย่พรีเมียร์ลีก แมตช์เดย์ 18 ดูบอลย้อนหลัง

ทีมยอดแย่พรีเมียร์ลีกประจำสัปดาห์นี้มีผู้เล่นจาก ลิเวอร์พูล และ แมนเซสเตอร์ ยูไนเต็ด ติดเข้ามาทีมละ 2 คน ซึ่งพวกเขาโชว์ฟอร์มได้ต่วกว่ามาตรฐาน ส่วนผู้เล่นคนอื่น ๆ มีใครบ้าง ไปดูกันได้เลย

 

ผู้รักษาประตู : อารอน แรมลีเดล (เชฟฯ ยูในเต็ด)

มีชอตเปิดบอลไม่ดีจนเกือบเสียประตู แทบไม่มีโอกาสป้องกันประตูเลย โดนยิงแต่ละครั้งก็เสียประตูเกือบทุกครั้ง

 

กองหลัง : อันโตนี โรบินสัน (ฟูแล่ม)

โดนไล่ออกจากสนามจากจังหวะพุ่งเปิดปมไปใส่หนแข้ง เซซาร์ อัชปลิกวยต้า อย่างน่าเกลียด จนทำให้เพื่อนร่วมทีมต้องเหนื่อยหนัก และสุดท้ายก็ยวบโดนเชลซียิงช่วงท้ายพ่ายคาบ้านไป 0-1

 

- กองหลัง : เจมส์ ทอมกี้นส์ (คริสตัล พาเลซ)

แม้สถิติส่วนตัวอย่างการเคลียร์บอลมีมากถึง8 ครั้ง แต่โดยรวมฟอร์มการเล่นถือว่าทำได้ไม่ดีเท่าที่ควร ข่าวแมนยู

 

กองหลัง : คอนอร์ เดาดี้ (วูล์ฟส)

เรื่องเกมรับแทบช่วยทีมไม่ได้เลย แถมยังมาทำเสียจุดโทษหลังไปใช้ขาเกี่ยว มาเธอุส เปเรยร่า ล้มในเขตโทษจนเป็นที่ว่ของประตูชัยให้แก่เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน

 

กองหลัง : เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อารโนลด์ (ลิเวอร์พูล)

เรื่องเกมบุกที่เคยเป็นอาวุธเด็ดสอบตกมาแล้วหลายนัด ส่วนเรื่องเกมรับมีพลาดให้เห็นบ้างจากการโหม่งคืนหลังไม่ดี หรือไปสกัดบอลเข้าทางคู่แข่ง

 

กองกลาง : รูเบน เนเวส (วูล์ฟส) ดูบอลย้อนหลัง

เป็นเกมที่แข้งโปรตุกีสเล่นได้ต่ากว่ามาตรฐานมีส่วนร่วมกับเกมน้ำอยมาก และถูกเปลี่ยนตัวออกตั้งแต่เกมผ่านไปหนึ่งชั่วโมง

 

กองกลาง : บรูโน่ แฟร์นันด์ส (แมนฯ ยูในเต็ด)

อาจเพราะเจ้าตัวตั้งมาตรฐานไว้สูงมาก จึงเข้ามาติดทีมยอดแย่ในสัปดาห์นี้บรูโน่ ไร้บทบาท และปั้นเกมบุกให้ทีมไม่ได้เลย มีโอกาสได้ยิงลูกฟรีคิก และยิงจ่อ ๆ หนประตูที่ควรจะได้ก็ไปติดเซฟของ อลีสชง นายค่านลิเวอร์พูล

 

กองกลาง : โรดริโก้ (ลีดส์ ยูในเต็ด)

ไม่ได้มีส่วนร่วมกับเกมรุกอย่างที่ควรจะเป็นได้บอลน้อยมากแค่ 21 ครั้ง จน มาร์เซโล่ บิเอลซ่า ทนไม่ไหวต้องเปลี่ยนตัวออกตั้งแต่นาทีที่ 61

 

กองหน้า : โรแบรโต้ ฟีร์มีโน่ (ลิเวอร์พูล)

จัดว่าใช้โอกาสเปลืองเอามาก ๆ ครึ่งแรกมีโอกาสได้ยิงในเขตโทษ แต่น่าจะทำได้ดีกว่านี้ มีหน้าที่แค่เชื่อมเกมรุกเท่านั้น

 

กองหน้า: แพทริค แบมฟอร์ด (ลีดส์ ยูในเต็ด)

เกมรุกของลีคส์ที่อสุดๆ ในเกมที่เปิดบ้านแพ้ต่อไบรท์ตัน 0-1 โดยที่ แพทริค แบมฟอร์ด กองหน้าตัวเก่ง ไม่มีโอกาสง้งไคทำประตูเลยสักครั้ง และได้สัมผัสบอลแค่ 11 ครั้งเท่านั้น

 

กองหน้า : มาร์คัส แรชฟอร์ด (แมนฯ ยูในเต็ด) ดูบอลออนไลน์ 

พยายามจะใช้ความเร็วเล่นงานแนวรับลิเวอร์พูลแต่ก็ถูกจับล้ำหน้อยู่หลายครั้ง และพอถึงโอกาสสำคัญกลับตัดสินใจไม่ผ่านบอลให้ เอดินสัน คาวานี่ จนตัวเองโดน ฟาบินโญ่ วิ่งแชงแย่งบอลกลับไป

 

ลิตเติ้ลโจ โชว์ออฟ

“เดอะ แฮมเมอส์’ กะอะไรก็ได้ที่ไม่คุยเคย

เคยโดน พี่แบงค์ - ธนาคาร เผ่าจินดา อดีตนายแบบระดับแนวหน้าของน่านฟ้าเมืองไทย, ถ้าไม่ใช่ หง.1 แฟนเอฟเวอร์ตันซึ่งเป็นขาประจำหนังสือ สยามกีฬา สตาร์ซอคเกอร์ หรือเล่มเล็กฉบับนี้ ทั้วงเอาว่า "แหม่ โจ้คุ้นดูอยู่แถวนี้แหล่ะนะ ไม่พาเลซ ก็ฟูแล่ม !"

 

ใครคนนี้ก็จะตอบกลับ พี่แบงค์ ซึ่งสุมัย 20 ปีก่อน ยังแวะมาอังกฤษบ่อยในฐานะ "สจ๊วร์ต"ของการบินไทย ช่วงหลังหน้ที่การงาน ความรับผิดชอนสูงขึ้น ก็ไม่ได้ผ่านมานานเลยสองปีแล้วมั้งถึงแม้ตัวซีชั่นทิกกตที่ กูดิสัน พาร์ค จะฝากเพื่อนฝรั่งต่ออายุไปเรื่อยเรื่อย ก็ของท็อฟพี่ขนาดอยู่คำแหน่งนี้ มุมมองตรงเส้นกลางสนามอัฒจันทร์บุลเล่นส์ ที่ดีสุดของเค้าทุกวันนี้ยังแค่ปละไม่ถึงห้าร้อยปอนด์อ่ะหะ (พี่แบงค์จ่ายแค่ร้อยเดียวเองให้คงชื่อตัวเองไว้บนบัตร ที่เหลือลูกชายเพื่อนฝรั่งรับผิดชอบไป) "อ๋อ ! ดูมาเยอะแล้วพี่ ให้พวกน้อง ๆ เดินทางเก็บประสบการณ์กัน โจ้ค่อยอออกต่างจังหวัดตอนต้องดูแลแขกบริษัท หรือเจ้านาย"

 

ไอ้ที่จับสังเกตนี่ ไม่ผิดหรอกครับและมาอังกฤษแรกๆ ไป เซลเฮิร์สท์พาร์ค บ่อยเนี่ย ไม่ใช่ไปดูดิ อีเกิลส์ ด้วยเป็นไปดูวิมเบิลดัน ซึ่งมาเช่าสนามเล่นในพรีเมียร์ลีก ส่วนเจ้าของสนาม เดี๋ยวขึ้น เดี๋ยวลงลีกสูงสุดเป็นเหล่าเครซี่ แก๊ง ที่ดูมั่นคงกว่าถึงแม้ฐานแฟนบอลจะหยุมหยิมมาก ส่วนใหญ่เลย" จะอุทิศอัฒจันทร์ดนยาว (ไม่ใช่หลังประตู)ฝั่งอาร์เธอร์ เวต ให้ "ทีมเยือน" เลยคือทีมเยือนก็ไม่ได้ชนกันมาเต็มพื้นที่ทั่วอัฒจันทร์หล่ะ ก็มีการกั้นสัดส่วน แต่ก็นั่งเชียร์,ลุกเชียร์กันได้อย่างสบาย

 

แต่ในความเป็นจริงเราก็ดูบอลเยอะมากแหล่ะ สนามใหญ่ๆ ก็หมุนไปดูอยู่แล้ว เพียงแต่ถ้าได้จังหวะไปดูเมื่อไหร่ เกมเล็กขนาดนั้น ใครคนนี้ก็ไม่เคยปฏิเสธบ้านพักผมอยู่ฝั่ง South West ของมหานครลอนดอน เพราะฉะนั้นก็จะมีถึงสามสนามพรีเมียร์ลีก ที่เดินทางไปค่อนข้างง่าย

 

ใกล้สุดเลย --- "เครเวน ด็อทเทจ" สนามของฟูแล่ม นั่งรถเมลสาย 220 จากบ้านพักแถววันด์สเวิร์ธ รหัสไปรษณีย์ขึ้นด้วย SW18 ไปนิดเดียว แต่บ่อยครั้ง ประหยัดงัยและถือว่าเป็นการเดินออกกำลังกาย เหมือนแฟนฟูแล่มบางคนในละแวกนี้ด้วย การเดินอาจใช้เวลาเป็นครึ่งชั่วโมงแต่มันไม่ได้รู้สึกว่านานหรอก เพราะอากาศมันดี เหมือนเดินในห้องแอร์ซะส่วนใหญ่

 

ถัดไป--- "สแตมฟอร์ด บริดจ์" สนามเชลซี อันนี้ควรนั่งรถมลสาย 28 ข้างห้างเซาร์ไซด์ แถวบ้าน ชิวๆ สัก 15-20 นาที แล้วแต่รถติดแค่ไหน ข้ามสะพานวันด์สเวิร์ธ จับถนนสายเล็ก 2 เลน (ไปทาง/กลับทาง) บนถนนวันด์สเวิร์ธ บริดจ์ แต่มันก็เป็นเส้นสำคัญแถวนี้แล้วหล่ะ มาเที่ยวลอนดอนแล้วอาจงง ถนนหลายเส้นใจกลางเมือง ทำไมมีแค่นี้เหรอ

 

ก็เขาวางผังแบบนี้มานาน ไม่จำเป็นต้องตัดถนนเรื่อย ๆ นี่ครับ ไม่เหมือนเอิ่ม, ข้ามไปมีเจอไฟแดงติดกันหลายจุดตรงก่อนถึงสนาม เห็นสวนสรารณะ Eel Brook. ที่ถ้าเชลซีได้แชมป์อะไร จะพาเหรดมาจบกันตรงนั้น, ตรงนี้อาจตัดสินใจ บอกคนขับช่วยเปิดประตูหน่อยไดรเวอร์ที่นี่มักทำตามกฎ จอดรับส่งเมื่อถึงป้ายเท่านั้น หากถ้ามันติดนาน ๆ นิ่งๆ ก็พอจะอ้อนวอนกันได้บ้างหล่ะ

 

ถัดไปก็ค่อยเป็น--- "เซลเฮิร์สท์ พาร์ค" ซึ่งปัจจุบัน คริสตัล พาเลซ ใช้อยู่ทีมเดียวอันนี้จากบ้านเราต้องหารถเมลไปแคลปิแฮม จังชั่นชุมทางรถไฟที่ในแต่ละวัน มีขบวนหนอนเหล็กผ่านมากขบวนที่สุดของประเทศ คือลงไปฝั่งเชาธ์อีสต์ หรือ เซาท์ เวสต์ ของประเทศ ขบวนที่ออกจากสองหัวลำโพง วอเทอร์ลู สเตชั่น หรือ วิกทอเรีย สเตชั่น ต้องผ่านตรงนี้ (เรียกหลาย หัวลำโพง เพราะเปรียบเทียบกับกรุงเทพ เรามีสถานีต้นทางอันเดียว ของลอนดอนนี่มีเยอะมาก แล้วแต่คุณจะไปส่วนไหนของประเทศ)

 

จาก แคลปแฮม จังชั่น ก็จับรถไฟไปลงสถานีเซลเฮิร์สท์ ไม่นานหรอกครับ แล้วก็เดินไปสนาม ทั้งก่อนเกมและหลังเกม เดินทางสบาย ๆหลังเกมนอกจากมีรถไฟตามเวลาปกติแล้ว เขายังมีรถไฟพิเศษมาคนคนเข้าเมืองระบายคนได้เร็ว ปัญหาที่จะเกิดการปะทะแถวสนามมันก็น้อยลง ถึงแม้ทุกวันนี้ เรื่อง "ฮูลิแกน" แทบจะไม่เกิดขึ้นแล้ว เอาไว้นัดรวมตัวไปตีกะชาติอื่น ตอนบอลยุโรป / บอลโลกดีกว่า ฮ่า!

 

สามสนามที่เอ่ยถึงนี่ เป็นอะไรที่ผมเดินทางง่ายในลอนดอน แล้วอะไรที่เดินทางยากจากบ้าน ซึ่งอยู่ละแวก Wandsworth หรือPutney *อย่างหลังเป็นพื้นที่ใกล้ ๆ สถานีรถไฟก็เป็น อีสต์ พักนี่ย์, ย่านดูไฮโชกว่า ไหนเพื่อนลองเดากันนิด เอาเฉพาะในพรีเมียร์ลีกนะเอาที่แบบเราไปประจำหน่อย

ก.ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ สเตเดี้ยม

ข. เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม

ค. ลอนดอน สเตเดี้ยม

ติ๊กต็อก ติ๊กต็อก ติ๊กต็อก

คำเฉลยคือ : ไม่ค่อยชอบไปดู เวสต์แฮม ยูไนเต็ด สักเห่ไหร่ เพราะเดินทางข้ามฝั่งลอนดอนไปยังป้าย สแตรทฟอร์ด ซึ่งถ้าเราควบคุมเวลาได้ดีก็ยังมีหนึ่งชั่วโมง, เคยอยากลิ้มลองประสบการณ์ใหม่ หาทางขึ้น London Overgroundที่เปิดตัวไม่นานปี เห็นว่าไปป้าย Stratford บ้างเหมือนกัน สุดท้ายมันเป็นขบวนที่วิ่งแบบวงแหวนเลย กว่าจะถึงมีชั่วโมงครึ่งหรือเกือบสองชั่วโมงเนี่ยแหล่ะ!

 

ก่อนเดินทางเนี่ย มีเหลือบดูตารางเวลาด้วยนะ เขาก็บอกอยู่ว่าใช้เวลาประมาณไหน แต่อยากลองของงัย --- นั่นแหละ ครั้งเดียวพอไปสนามอาร์เซนอล ขึ้นไปโชนนอร์ทลอนดอน จากบ้านใช้เวลาชั่วโมงนึงเหมือนกัน แต่ถ้าเราไปเร็ว เกินชั่วโมง, สองชั่วโมงก่อนเกมเนี่ยสมารถลงสถานีเล็ก ฮอลโลเวย์ โรค (Holloway Road, แต่เป็นสถานีที่เราจะเดินเข้าสนามแบบใกล้สุด เป็นด้านหน้าที่มีปืนใหญ่ 2 กระบอกตั้งตระหง่านรอรับแขกอยู่ และท่างเข้ามีเดีย ก็อยู่แถวนั้นลอนดอน สเตเดี้ยม (โอลิมปิก สเตเดี้ยม ในชื่อเก่าตอนลอนดอนจัดโอลิมปิก เกมส์ปี 2012) ลำบากกว่านั้นเยอะ เพราะพอถึงสแตรทฟอร์ด กว่าจะเดินไปถึงจุดรายงานรับตั๋วนักข่าว เดินแบบไม่โอ้เอ้ ต้องมีอีก 30-40 นาที ไม่พอครับ จากนั้นเดินต่อเพื่อเข้าไปห้องนักข่าว ซึ่งมักจะเลี้ยงดูด้วยข้าวราดแกงอินเดีย ก็ถือว่าเป็นเสน่ห์ดี เพราะยานอีสตล์อนดอนนั้น คนเอเซียใต้อยู่กันเยอะ พนักงานสโมสรก็คนแนวนี้ หรือคนผิวดำ เยอะเหมือนกัน

 

ท็อตแน่ม ก็เป็นอีกสโมสรที่เดินทางไกลรวมๆ แล้วก็ไม่ต่างอะไรกับรังขุนค้อนเลย แต่ที่ผ่านมา ด้วยการเป็นทีมที่น่าสนใจ โดยเฉพาะเมื่อเป็นสนามใหม่ ที่ห้องพักนักข่าวซึ่งมีอาหารเครื่องดื่ม บริการเต็มที่ ให้ความรู้สึกว่าไปงานเลี้ยงหรือเปล่าเนี่ย, จากนั้นก็ทำทางออกไปสู่เพรสบ๊อกซ์ เพื่อนั่งดูเกมแบบไม่นานก้าว, ที่นั่ง press box ก็ดีชะเหลือเกิน เราก็เลยมองข้ามเรื่องการเดินทางไปผิดกับเวสต์แฮมที่คุ้นตา นอกจากเดินทางไกลแบบที่บอกแล้ว ต้องไปดูการเล่นเกมน่าเบื่อ แถมด้วยความที่สร้างสนามนี้ตอนแรกเพื่อให้เป็นสนามหลักของโอลิมปิก เกมส์ ไม่ได้เป็นสนามบอล

 

การนั่งดูเกมจาก เพรส บ็อกซ์ ไม่ได้อรรถรสนัก มองเห็นเกมไกลไป จอมอนิเตอร์ให้ดูภาพการถ่ายทอดสดไปด้วย ก็มีให้น้อยมาก และไม่ว่ากันเมื่อเขาต้องติดตั้งตแหน่งที่นั่งของสื่อหลักอังกฤษ หรือสื่อที่คุ้นเคยกันก่อนแต่ทีมที่เรารู้ว่า เล่นน่าเบื่อ และคุ้นกับการหนีตกชั้นเป็นพอ เวสต์แฮม ยูไนเต็ดแทบไม่น่าเชื่อว่าปัจจุบันก็ยังคงมีผลงานดีต่อไปชัยชนะเหนือ เวสต์บรอมวิช ไม่ใช่อะไรที่น่าตื่นตาตื่นใจ แต่นั่นทำให้ เดวิด มอยส์ที่เคยโดนปรามาสว่าตกยุคไปแล้ว จากก้าวเข้ามารับงานตอนทีมอยู่อันดับ 17 กลางฤดูกาลก่อน ข่าวแมนยู

 

ช่วงต้นซีชั่นนี้ ผมก็ยังเล็งๆ อยู่เลยจะโดนไล่มั้ย และพอมอยส์ ติดโควิด กลายเป็นทีมพบกับชัยชนะต่อเนื่อง พอเขากลับมาคุมทีมข้างสนามด้วยตัวเอง ทีมก็ยังไปได้สวย นาทีนี้ตามหลังจ่ฝูงหน้าใหม่ เลสเตอร์ ซิตี้ เพียง 6 แต้ม!, ตามหลังลิเวอร์พูล 2 แต้ม และเหนืออาร์เซน่อล 5 แต้ม อะไรกันเนี่ยการมี 32 แต้ม ในวันนี้ ทำให้พวกเขาเป็นสถานะไปมากมายจากที่สองประธานสโมสร เดวิด โกลด์และ เดวิด ซัลลิแวน มักโดนแฟนขนค้อนที่จัดว่าเป็นกองเชียร์ขาโหดทีมนึง ส่งเสียงประทั่วงเรื่อยเพราะทีมมักจะผลงานไม่ดี และต้องหนีตกชั้นกันตลอดนี่เล่นกันแค่กลางซีชั่น ก็มั่นใจได้ว่า ปีนี้ "ไม่ตกชั้น" แน่ !

 

และผมก็มักจะนึกถึงเกมที่เจอกับแมนเชสเตอร์ ยูฯ, ขุนค้อนเล่นครึ่งแรกแบบสุดติ่งเลย ทำให้ผีแดงเป็นที่มหน่อมแน้ม และมันก็ยาวมาจนถึงครึ่งหลัง จนกระทั่ง ลูกเคลียร์ของนายทวาร ดีนเฮนเดอร์สัน ที่ออกมาเตะทิ้ง และมองว่าน่าจะออกข้างก่อนเลี้ยยกลับเข้ามา จนนำไปสู่ประตูของผีแดง เป็นจุดพลิกผันในเกมนั้นมอยส์เห็น, ไลน์แมนไม่มอง (ทำหน้าที่ผิดพลาด ไปสนใจไลน์ว่าจะล้ำหรือเปล่า ไม่ทำหน้าที่แรก ดันไปทำหน้าที่ที่มี VAR คอยช่วยเช็คตลอดอยู่แล้ว) มันส่งผลให้ขุนค้อนแพ้ในที่สุดคิดดูถ้า เวสต์แฮม ได้สามแต้มในวันนั้น หลังเกมคืนวันอังคารที่ผ่านมา พวกเขาก็ควรจะอยู่สูงถึงอันดับ 4 นำหน้าลิวอร์พูลซึ่งคนจะพูดถึงพวกเขาและเดวิด มอยส์ มากกว่านี้อีก

 

Call Center
LINE ID :

script async src="https://www.googletagmanager.com/gtag/js?id=UA-127070102-1">